ที่ไป และที่มา
จับพลัด จับผลูได้เข้าทำงานโรงแรมในแผนกแม่บ้าน แบบไม่ได้ตั้งใจ เท่าไหร่ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เพราะตัวเอง จบด้านการเกษตร สาขาหลัก คือการประมง จาก วิทยาลัยประมงสงขลารุ่นแรกๆ โน่นแหละ ซึ่งนักศึกษาทุกคนที่จบที่นั่นจะมีความฝันออันมุ่งมั่น สู่ ตำแหน่งสูงๆ สวยๆ ในกองกรม เหมือนเพื่อนๆ ด๊อกเตอร์หลายๆคนที่ได้ดิบได้ดีในขณะนี้ หรืออีกส่วนหนึ่ง ก็ตัดสินใจร่วมงาน กับบริษัทใหญ่ๆ อย่าง CP ในตอน หรือ แนวหนึ่ง ก็ ทำธุรกิจ ด้านค้าอาหาร หรือ ผลิตภัณฑ์ยา ของสัตว์น้ำ ตามสาขาที่รำเรียน หรือสุดท้ายประกอบ อาชีพ เกษตรกร ด้าน การประมง ตามการปลูกฝัง ของ องค์กรณ์เกษตรกรในอนาคตของเรา ซึ่งตอนนี้ ยังจำคติพจน์ ได้ ฝังใจเราเรียนรู้เพื่องานการฝึกหัด เราปฏิบัติเพื่อหวังทางศึกษา
หาเลี้ยงชีพเพื่อชีวิตวัฒนา ใช้วิชาบริการงานสังคม
และ เพราะด้วยสาเหตุที่ซึมซับเอาเอาค่านิยมของคติพจน์นี้ หรือ เพราะแต่งงานกับนายก อ.ก.ท. ผู้มีเป้าหมายอันแรงกล้า จบออกมาเลยเลือกทางที่ ปฏิบัติจากแนวทางที่ศึกษา หาเลี้ยงชีพจากสายงานที่เรียนมา หลากหลายอาชีพ ล้มลุก คลุกคลาน จนเวลา 9 ปีเต็ม ด้วยโชคชะตาพามามากกว่า จึงย้ายถิ่นฐานมาถึง ภูเก็ต เริ่มต้นด้วย ธุรกิจ สุดหรู Bull Fighting หรือ กีฬาชนโค โชว์ นักท่องเที่ยว และแล้ว ก็จบลงที่ธุรกิจล้มเหลว พร้อม กับทุนก้อนสุดท้าย เหลือ ติดตัวแค่ รถมอร์เตอร์ไซค์ 1 คัน 3 ชีวิต พ่อ แม่ และลูกสาว วัย 7 ขวบ ย้ายโรงเรียนมาเริ่มต้น ป2 ที่นี่ โชคดีที่มี ตายายคู่หนึ่ง ให้ที่พักพิง และลูกสาว ของคูณยาย เขาทำงานโรงแรมอยู่เขาบอกว่าอยู่ ภูเก็ต ต้องทำงานโรงแรม ถึงจะอยู่ได้ เขา ทำอยู่โรงแรม ห้าดาวเก่าแก่ ที่หนึ่ง ตอนนั้นไม่มีความรุ้เลยว่างานโรงแรมหน้าตาเป็นอย่างไร ด้วยความ มานะพยายาม ไม่อยากแบกความล้มเหลว ครั้งแล้วครั้งเล่า กลับไปหา พ่อแม่ ก็ขอพี่เขาให้พาไปสมัครงาน ด้วยความที่ไม่เคยประสาในงานโรงแรม พี่เขาบอกให้สมัคร เสิร์ฟ ด้วยความที่ไม่เจียมสังขาร ที่อายุตอนนั้นปาเข้าไป 28 แล้ว แถมไม่เจียม บอดี้ด้วย หน้าตาก็ บ้านๆ สิ้นดี ภาษายิ่งแล้วใหญ่ พอเขา ถามภาษาอังกฤษมา Yes No ยังไม่กล้าพูดเลย น้องฝ่ายบุคคลเขาถามว่า ทำใมถึงสมัคร เสิร์ฟ เขาคงอยากถามว่า คิดได้ไงอายุปูนนี้แล้วแต่คงจะยั้งทัน และแล้วก็ แป่ว เขาไม่เรียกสัมภาษณ์ ตอนนั้น หุ้นส่วนเก่าที่ทำ โคชน ด้วยกัน เขารู้จักGM โรงแรมหนึ่ง เลยฝากให้เข้าทำตำแหน่ง Cleaner น่าน Cleaner ยุคนั้นต้องฝาก GM เชียวละ น้อย ซะเมื่อไหร่ แต่ทำ Cleaner ได้ไม่นาน ก็ค้นพบงานแบบนี้มันไม่ใช่ตัวเอง เพราะ ตัวเองเป็น คนไม่ชอบทำอะไร ที่ต้อง รอเวลา กวาด หมด ก็แล้ว ถูหมดก็แล้ว เช็ดใบไม้หมดทุกใบแล้ว เวลาเพิ่งผ่านไป 5 นาทีเอง แล้วเมื่อไหร่จะได้ กลับบ้านละเนี่ย รู้สึกวันเวลามันช่างยาวนานกว่าคนอื่น เสียจริง เลยบอกซุปเปอร์ ว่าทำไม่ได้ ผู้ช่วยแม่ ซึ่งผู้ช่วยคนนี้ ประมาณ 5 ปีให้หลัง เราก็ไปผู้ช่วยแก ตอนที่ แกเป็นแม่บ้าน แกถามว่าทำใม ทำไม่ได้ ก็อธิบายว่างาน Cleaner มันน่าเบื่อ วันๆมาทำงาน รอเวลา ออกเวรตั้งแต่ พอเริ่มเข้างาน เขาบอก ว่าขอ แม่บ้าน ฝึกเมด สิ เพราะ เมด จะเร่งรีบทำงานแข่งกับเวลา และได้ทิปดีด้วย น่าสนใจแฮะ เลยตัดสินใจเข้าหาแม่บ้าน
คุณแม่บ้านสมัยนั้น ศักดินามากคะ เปิดประตู 2 ชั้นกว่าจะถึงออฟฟิศ คะ จากประตูด้านในเข้าไป คลานเข่านะคะ และแล้วก็เข้าถึงคุณแม่บ้านที่นั่งสง่าดุจ นาง พญา ขอท่าน ขึ้น ฝึก เมด ท่าน ถาม ทำคลีนเนอร์ นานเท่าไหร่ บอกว่า 1 เดือนคะ แม่บ้านสมัยนั้น หารู้จัก Cleaner ผู้ต้อยต่ำ เยี่ยงฉันไม่ ทำงานนานเท่าไหร่ท่านยังไม่รู้เลย ท่านว่าทำงาน 1 เดือน จะขึ้น เมด แล้ว รู้มั๊ย คนอื่นบางคนทำ Cleaner 4-5 ปียังไม่ได้ขึ้นเลย อ้าวเราผิดปกติเหรอ แค่คิดในใจ แต่แข็งใจตอบว่าหนูแค่อยากฝึกคะ แกบอกว่าก็ได้แต่ต้องฝึกนอกเวลาทำงานนะ และอีกอย่างต้องวันที่ เจ้าของฟลอร์เขาไม่ยุ่งมาก และเขาเต็มใจฝึกให้ มีความรู้สึกว่าเมดนี่มันยิ่งใหญ่กว่า Cleaner มากนัก กว่าเราจะได้ฝึกทำใมข้อแม้มันมากมาย แต่ เช้าวันรุ่งขึ้น เข้าเวร บ่าย 3 มาทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า มาถึงแจ้งที่ออฟฟิศขอฝึกเมด เขาก็ว่าไปหา ซุปเปอร์ ฟลอร์ จำได้ไป หาพี่คนหนึ่ง ที่เป็น ซุปเปอร์ ชื่อ พี่ อุ๊ พี่อุ๊ไปฝาก กับ เมด คนแรก เขาบอกไม่เอา ไม่ เอา ช้า ไม่มีเวลาฝึก โหเราเป็น ภาระ เขาขนาดนั้นเชียว พี่อุ๊ ว่าไม่เป็นไรไปกับพี่ พอดีเขาเร่งห้องเช็คเอาท์ ในความรับผิดชอบพี่อุ๊ มา พี่อุ๊บอก เอาน้องล้างห้องน้ำห้อง เช็คเอาท์ ก่อนนะ ใช้ถังขยะล้าง เป็น Cleaner ล้างห้องน้ำเป็นนะ พี่ไปช่วยเมดคืนห้อง เคเอาท์ ให้เขาก่อน หลังพี่อุ๊ไป ก็เข้าไปล้างห้องน้ำ เอาละสิ เปิดไฟ ไม่ติด เปิด สวิทแล้วทุกตัวก็ยังไม่ติด ทำยังไงก็ล้างมันทั้งมืดๆ นั่แหละ พี่อุ๊ กลับมา ถามอ้าวน้องล้างห้องนำทำใมไม่เปิดไฟ บอกแกว่าหนูเปิดทุกดวงแล้วก็ไม่ติด แกบอกว่าติดยังไง คีแทคไม่ได้เสียบ ก็ฮาละสิ ก็หนูไม่เคยรู้นี่ว่าไฟในห้องมันใช้ คีแทคด้วย และวนนั้นก็ผ่านไป อย่างทุลักทุเล แต่มีความรู้สึกว่า เป็น เมด นี่มันสนุกดี ชักจะชอบ แล้วสิ และ วันถัดมา เป็นวันหยุด ก็ ชวน พ่อ แม่ลูกไปเล่นน้ำ ทะเล ที่หาด กะตะ เจอ โรงแรม สร้างใหม่โรงแรม หนึ่งเขียน ป้ายรับ สมัครงาน มี รูมเมดด้วย น่าสนใจ แฮะ ช่วงนั้นจำได้ ปลายเดือน กุมภาพันธ์ เป็นเหตุให้ในวันถัดมา ก็พาตัวเองถือหลักฐานมา เขียนใบสมัครที่โรงแรมนี้ เพราะตัวเองเข้าบ่าย และแล้ว ก็มาเจอ พี่พร คุณ ณัฐพร ตาดำ พี่สาวคนนี้ ที่ มีบทบาทในการ สนับสนุนในหน้าที่ การงาน ของตัวเองมาตลอด เป็นความโชคดีของตัวเอง ประจวบกับ ความใจดีและปรารถนาดีจากพี่เขา ตัวเองถึง มีโอกาสเจริญรุ่งเรืองในเส้นทางสายนี้ จวบจน ปัจจุบัน เพราะ พี่ เขาต้องการคนมาช่วยบุกเบิก เคลียร์ ตึกโรง แรมเปิดใหม่ด่วน เขารับ เลย ด้วยเงินเดือนลดลง 500 กว่าบาท ลืมบอกที่เก่า ได้ เงินเดือนตอนนั้น 4050 บาท มาที่ใหม่ ได้ 3500 บาทไม่ มายด์ เพราะได้ทำในสิ่งที่ชอบ ดูเหมือนตัวเองจะเลือกทางที่ชอบๆ มาตลอดนะ อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชีวิตมันโซซัดโซเซ ถูลู่ถูกัง มาอย่างงี้ แต่ไม่ท้อ ลุยไปข้างหน้า
ทีนี้แหละ ชีวิตสายแม่บ้านโรงแรมได้เริ่ม จากบัดนั้น ถึงจวบจนปัจุบัน
คุณแม่บ้านสมัยนั้น ศักดินามากคะ เปิดประตู 2 ชั้นกว่าจะถึงออฟฟิศ คะ จากประตูด้านในเข้าไป คลานเข่านะคะ และแล้วก็เข้าถึงคุณแม่บ้านที่นั่งสง่าดุจ นาง พญา ขอท่าน ขึ้น ฝึก เมด ท่าน ถาม ทำคลีนเนอร์ นานเท่าไหร่ บอกว่า 1 เดือนคะ แม่บ้านสมัยนั้น หารู้จัก Cleaner ผู้ต้อยต่ำ เยี่ยงฉันไม่ ทำงานนานเท่าไหร่ท่านยังไม่รู้เลย ท่านว่าทำงาน 1 เดือน จะขึ้น เมด แล้ว รู้มั๊ย คนอื่นบางคนทำ Cleaner 4-5 ปียังไม่ได้ขึ้นเลย อ้าวเราผิดปกติเหรอ แค่คิดในใจ แต่แข็งใจตอบว่าหนูแค่อยากฝึกคะ แกบอกว่าก็ได้แต่ต้องฝึกนอกเวลาทำงานนะ และอีกอย่างต้องวันที่ เจ้าของฟลอร์เขาไม่ยุ่งมาก และเขาเต็มใจฝึกให้ มีความรู้สึกว่าเมดนี่มันยิ่งใหญ่กว่า Cleaner มากนัก กว่าเราจะได้ฝึกทำใมข้อแม้มันมากมาย แต่ เช้าวันรุ่งขึ้น เข้าเวร บ่าย 3 มาทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า มาถึงแจ้งที่ออฟฟิศขอฝึกเมด เขาก็ว่าไปหา ซุปเปอร์ ฟลอร์ จำได้ไป หาพี่คนหนึ่ง ที่เป็น ซุปเปอร์ ชื่อ พี่ อุ๊ พี่อุ๊ไปฝาก กับ เมด คนแรก เขาบอกไม่เอา ไม่ เอา ช้า ไม่มีเวลาฝึก โหเราเป็น ภาระ เขาขนาดนั้นเชียว พี่อุ๊ ว่าไม่เป็นไรไปกับพี่ พอดีเขาเร่งห้องเช็คเอาท์ ในความรับผิดชอบพี่อุ๊ มา พี่อุ๊บอก เอาน้องล้างห้องน้ำห้อง เช็คเอาท์ ก่อนนะ ใช้ถังขยะล้าง เป็น Cleaner ล้างห้องน้ำเป็นนะ พี่ไปช่วยเมดคืนห้อง เคเอาท์ ให้เขาก่อน หลังพี่อุ๊ไป ก็เข้าไปล้างห้องน้ำ เอาละสิ เปิดไฟ ไม่ติด เปิด สวิทแล้วทุกตัวก็ยังไม่ติด ทำยังไงก็ล้างมันทั้งมืดๆ นั่แหละ พี่อุ๊ กลับมา ถามอ้าวน้องล้างห้องนำทำใมไม่เปิดไฟ บอกแกว่าหนูเปิดทุกดวงแล้วก็ไม่ติด แกบอกว่าติดยังไง คีแทคไม่ได้เสียบ ก็ฮาละสิ ก็หนูไม่เคยรู้นี่ว่าไฟในห้องมันใช้ คีแทคด้วย และวนนั้นก็ผ่านไป อย่างทุลักทุเล แต่มีความรู้สึกว่า เป็น เมด นี่มันสนุกดี ชักจะชอบ แล้วสิ และ วันถัดมา เป็นวันหยุด ก็ ชวน พ่อ แม่ลูกไปเล่นน้ำ ทะเล ที่หาด กะตะ เจอ โรงแรม สร้างใหม่โรงแรม หนึ่งเขียน ป้ายรับ สมัครงาน มี รูมเมดด้วย น่าสนใจ แฮะ ช่วงนั้นจำได้ ปลายเดือน กุมภาพันธ์ เป็นเหตุให้ในวันถัดมา ก็พาตัวเองถือหลักฐานมา เขียนใบสมัครที่โรงแรมนี้ เพราะตัวเองเข้าบ่าย และแล้ว ก็มาเจอ พี่พร คุณ ณัฐพร ตาดำ พี่สาวคนนี้ ที่ มีบทบาทในการ สนับสนุนในหน้าที่ การงาน ของตัวเองมาตลอด เป็นความโชคดีของตัวเอง ประจวบกับ ความใจดีและปรารถนาดีจากพี่เขา ตัวเองถึง มีโอกาสเจริญรุ่งเรืองในเส้นทางสายนี้ จวบจน ปัจจุบัน เพราะ พี่ เขาต้องการคนมาช่วยบุกเบิก เคลียร์ ตึกโรง แรมเปิดใหม่ด่วน เขารับ เลย ด้วยเงินเดือนลดลง 500 กว่าบาท ลืมบอกที่เก่า ได้ เงินเดือนตอนนั้น 4050 บาท มาที่ใหม่ ได้ 3500 บาทไม่ มายด์ เพราะได้ทำในสิ่งที่ชอบ ดูเหมือนตัวเองจะเลือกทางที่ชอบๆ มาตลอดนะ อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชีวิตมันโซซัดโซเซ ถูลู่ถูกัง มาอย่างงี้ แต่ไม่ท้อ ลุยไปข้างหน้า
ทีนี้แหละ ชีวิตสายแม่บ้านโรงแรมได้เริ่ม จากบัดนั้น ถึงจวบจนปัจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น