วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

What are the risk factors of housekeeping?

The main risk factors for repetitive motion injuries (RMIs) in housekeeping are:
  • heavy physical workload and excessive bodily motions which are a high risk for back injuries
  • forceful upper limb motions in awkward positions which are a high risk for neck or shoulder and arm injuries
Space limitations require workers to use many uncomfortable postures. These are:
  • standing or walking
  • stooping
  • squatting
  • kneeling
  • stretching
  • reaching
  • bending
  • twisting
  • crouching
A housekeeper changes body position every three seconds while cleaning a room. If we assume that the average cleaning time for each room is twenty-five minutes, we can estimate that a housekeeper assumes 8,000 different body postures every shift.
In addition, forceful movements while using awkward body positions include lifting mattresses, cleaning tiles, and vacuuming every shift. Housekeeping is a physically demanding and very tiring job. It can be classified as "moderately heavy" to "heavy" work because the energy required is approximately 4 kilocalories per minute (4 kcal/min.)

http://www.ccohs.ca/oshanswers/occup_workplace/hotel_housekeeping.html

What kind of work do people do in housekeeping in a hotel?

What kind of work do people do in housekeeping in a hotel?

Housekeeping in a hotel is a very physically demanding job that includes many, varied tasks. Typically, in this case study, housekeepers were responsible for cleaning 16 rooms per shift. The actual amount of work depends on the size of the room and the number of beds. A housekeeper needs between fifteen and thirty minutes to do one room. A housekeeper carries out the following tasks:
  • making beds (Figures 1a, 1b, 1c)
  • tidying rooms (Figure 2)
  • cleaning and polishing toilets, taps, sinks, bathtubs and mirrors (Figures 3a, 3b)
  • washing floors
  • removing stains
  • vacuuming
  • Figure 1a - Making beds
    Figure 1a - Making Beds

    Figure 1b - Making beds
    Figure 1b - Making Beds

    Figure 1c - Making beds
    Figure 1c - Making Beds
    Figure 2 - Tidying a room
    Figure 2 - Tidying a room
    Figure 3a - Cleaning
    Figure 3a - Cleaning
    Figure 3b - Cleaning

    Figure 3b-Cleaning

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แรงบรรดาลใจ

 จากที่ไปที่มา ก็มาถึง แรงบรรดาลใจที่ทำให้ ตัวเองอยาก ลุกขึ้นมา เป็น Housekeeping  Training Center ก็หลังที่ต้วเองได้ ซัดเซพเนจร เข้ามา ทำงานโรงแรมอย่างเต็ม ตัว จากเหมือนกับไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อเข้ามาอยู่แล้วทำให้ทราบว่างานสายแม่บ้านโรงแรมก็ สนุกดี ชอบที่จะพบ กับผู้คน ทั่วโลกชอบที่ได้ ทำงานแข่งกับเวลา 8-9 ชั่วโมงในแต่ละวันผ่านไป ช่างรวดเร็ว  ชอบที่ได้ ฝึกภาษาไปด้วย ค่าตอบแทนก็ไม่เลว แถมสนุกที่ได้ ลุ้นจนตัวโก่งทุกวัน จาก รายได้ จาก ทิป และ ง่าย ที่จะเรียนรู้ ลักษณะและอุปนิสัย ของคน รอบโลก ดูสิว่ามีทัศนคติที่ดี กับงาน คนรับใช้ สาธารณะ นี้แค่ไหน

 หลังจากเก็บเกี่ยวกับโรงแรม แรกเป็นเวลาได้ 4-5 เดือนก็ได้เรียนรู้ว่างานโรงแรมมีหลายตำแหน่ง หลากหลายเส้นทางที่จะเติบโต และ หลากหลายค่าตอบแทนและแตกต่างตาม ฤดูกาลด้วย  ด้วย สมองก็เริ่ม วางแผนในการ ก้าวย่างบนทางสายนี้ ก็เริ่มทำงาน Hi Season ของ ปีนั่น ก็จัดการ วิ่งร่อนใบสมัคร ของโรงแรม 3-4ดาวสมัยนั้น เพราะ5 ดาวมีน้อยมาก เลยยังมิคิดอาจเอื้อม และแล้ว ได้รับผลตอบรับ อย่างน่าพอใจเพราะ โรงแรมมีชื่อแถวนั้น กะตะ กะรน พร้อมใจ กันเรียกตัวคนเก่งอย่างเรา(โม้)เข้าทำงาน พร้อมกัน 3โรง ทำไงละทีนี้ คนเก่งจะต้องเลือก แล้วละ เลยเลือก ที่กะรน เพราะReferent ค่อนข้าง ดี เลือกที่นี่แหละ


 ตั้งแต่มานั่งออรอสัมภาษณ์ โอยทำใมคนมันเยอะอย่างนี้ แต่งตัวก็ไม่ค่อยเรียบร้อย ดันลืมใส่รองเท้า คัชชู ฝนก็ตก จะกลับไปเอาก็ไม่ได้ เป็นไงเป็นกันตัดสินใจเข้าสัมภาษณ์ละ ถึงคิวแล้วนี่ ฝ่ายบุคคลถามทำใมแต่งตัวไม่เรียบร้อยบอกว่าหนูเท้าเจ็บ ดวงดีนิดนึงมีแผลที่เท้า รอดตัวไป ฝ่ายบุคคลมารู้ตอนนี้ก็คงกลับใจไม่ทันแล้ว หลังตอบ คำถามและสอบข้อเขียนไรเสร็จ เขาก็บอกจะติดต่อมาแจ้งว่าได้หรือไม่ตาม ขั้นตอนของฝ่ายบุคคลสมัยนั้นซึ่งไม่ค่อยต้องง้อ หาคนทำงาน ประมาณ 3วันเขาแจ้งมาว่าได้งานทำ มารู้ตอนหลังผ่าน สัมภาษณ์เข้ามา 10 คน จาก 50 กว่าคน แต่เป้าหมายการผ่าน ทดลองงาน แค่ 2คน เท่านั้น คิดในใจว่าชั้นจะโชคดีชั้นที่ 2 มั๊ยเนี่ย โชคดีได้เข้ามา ทั้งที่ อายุเกิน กำหนดรับ มาตั้ง 2 ปีแล้วนี่ เขารับไม่เกิน 26 ปี เราดัน 28กว่าแก่ๆ แล้ว นี่จะผ่านโปร มั๊ยเนี่ย เพราะ ข่าวมาว่าผ่านที่นี่ได้เขี้ยวน่าดู แต่เป็นไงเป็นกันมาแล้วก็ลองกัน ซักตั้ง


  และด้วยความทรหดอดทน 4 เดือนก่อนผ่านโปรไม่เคยขาดลามาสาย ตั้งใจทำงานอย่าง เต็มที่ และแล้วก็ผ่าน จนได้ หลังจาก 4 เดือน ติด 1 ใน 2 ชื่นชมกับการวางระบบงานที่นี่มาก งานทุกอย่าง เนี๊ยบ สอดคล้องได้มาตรฐาน  หัวหน้างานทุกระดับชั้นคุมเข้มจัดแบ่งงานกัน อย่าง เข้มงวด เป๊ะ ทุกขั้นตอน  จนเส้นทางชีวิต หมุนเวียนเปลี่ยนผัน ไปตามวิถีทางของกาลและเวลา ไปมาหลายที่ จาก มาตรฐานไทย สู่มาตรฐาน สากล จาก ตำแหน่ง พนักงานระดับปฏิบัติการ จนถึง ระดับบริหาร ใน สายงาน ด้วยความที่อำนาจในการต่อรอง ของแรงงานมีมากขึ้น จน ถึงขั้น วิกฤติของนายจ้าง เพราะขาดแคลนพนักงาน ใน สาขาการโรงแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ปริมาณ การจ้างงานมีมากกว่า ปริมาณแรงงานที่มี สิทธ์การเลือกงานจึงเปลี่ยนขั้ว มาอยู่ที่ลูกจ้าง โรงแรมที่มีค่าตอบแทน สูงๆ เซอร์วิส สูงๆ เท่านั้น ถึงมีสิทธ์ เลือก คนทำงานที่มี คุณภาพ ก่อน ค่าจ้างรอง ๆ ก็ คิวถัดไป ตกหนัก ที่ผู้ บริหาร ค่าจ้างน้อยๆ เพราะเหนื่อย กะ หาคน มาทำงาน แต่เป็นบันไดแค่เหมือนโรงเรียนอนุบาล พอ ฝึกเสร็จ แค่ ขั้นปฐม มัธยมไม่ถึงด้วยซ้ำ พนักงาน ก็ โบกมือลา วิ่งไล่ล่า ค่าตอบแทนที่เพิ่มสูงขึ้น รุ่นแลวรุ่นเล่า กลายป็น พนักงาน ที่ เกิดขึ้น คุณภาพ ก็ ถดถอย กันไป เรื่อยๆ เพราะ รีบฝึก รีบปล่อย รีบบิน จนหลังๆ ก็ พบว่า ประสิทธิภาพ  และมาตรฐานการทำงานเก่าๆ แทบจะไม่หลงเหลือ เป็นเรื่องน่าเศร้าของแม่บ้าน มืออาชีพอย่าง เรา ทั้งๆ ที่ Product ที่แท้จริงของโรงแรม คีอความสะอาด ของห้อง พัก  เราขายความสะอาด  เลยคิดหวัง และ ตั้งใจที่ จะมี สถาน ที่ ซักแห่งหนึ่ง เป็น ศูนย์กลาง ของงาน ด้าน Soft ware อันทรงคุณภาพของพนักงาน ใน สายงานนี้ โดย จะแปรเปลี่ยน ไม้กวาด ดอกอ้อ เป็น ไม้กวาด กายสิทธ์ ที่ ไม่ใช่ไว้เหาะดังแม่มด แต่จะ เอาไว้ห้ำหั่น กับความสกปรก ระเกะ ระกะ ไม่สะอาดตา เสียอารมณ์ แก่ผู้พบเห็น อีกต่อไป และด้วยความที่ขาดแรงงาน จนทางเลือกสุดท้ายต้องใช้ พม่า ทำงาน และ คงจะเป็น ลาวเขมร อะไต่อมิอะไร ในอนาคต เมื่อ สัญญา Afta เปิด ใช้เต็มตัวใน ปี 2015 เลย เตรียม สื่อการสอน ไว้ใน หลายๆ เวอร์ชั่น โดย เริ่ม ที่ ไทย อังกฤษ พม่า อินเดีย และ ลาว เขมร ก็ จะ Coming Soon เด้อ  และนี่แหละ จึง จะ เกิด Website นี้ ขึ้นมา Housekeeping training center  ด้วยประการฉะนี้

งานแม่บ้านโรงแรมHotel Housekeeping:     ที่ไป และที่มาจับพลัด จับผลูได้เข้าทำงานโรงแรม...

งานแม่บ้านโรงแรมHotel Housekeeping:     ที่ไป และที่มาจับพลัด จับผลูได้เข้าทำงานโรงแรม...:       ที่ไป และที่มา จับพลัด จับผลูได้เข้าทำงานโรงแรมในแผนกแม่บ้าน แบบไม่ได้ตั้งใจ เท่าไหร่ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เพราะตัวเอง จบด้านการ...

วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

    ที่ไป และที่มา

จับพลัด จับผลูได้เข้าทำงานโรงแรมในแผนกแม่บ้าน แบบไม่ได้ตั้งใจ เท่าไหร่ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เพราะตัวเอง จบด้านการเกษตร สาขาหลัก คือการประมง จาก วิทยาลัยประมงสงขลารุ่นแรกๆ โน่นแหละ ซึ่งนักศึกษาทุกคนที่จบที่นั่นจะมีความฝันออันมุ่งมั่น สู่ ตำแหน่งสูงๆ สวยๆ ในกองกรม เหมือนเพื่อนๆ ด๊อกเตอร์หลายๆคนที่ได้ดิบได้ดีในขณะนี้ หรืออีกส่วนหนึ่ง ก็ตัดสินใจร่วมงาน กับบริษัทใหญ่ๆ  อย่าง CP ในตอน หรือ แนวหนึ่ง ก็ ทำธุรกิจ ด้านค้าอาหาร หรือ ผลิตภัณฑ์ยา ของสัตว์น้ำ ตามสาขาที่รำเรียน หรือสุดท้ายประกอบ อาชีพ เกษตรกร ด้าน การประมง ตามการปลูกฝัง ของ องค์กรณ์เกษตรกรในอนาคตของเรา  ซึ่งตอนนี้ ยังจำคติพจน์ ได้ ฝังใจ
               
              เราเรียนรู้เพื่องานการฝึกหัด เราปฏิบัติเพื่อหวังทางศึกษา

              หาเลี้ยงชีพเพื่อชีวิตวัฒนา ใช้วิชาบริการงานสังคม

  และ เพราะด้วยสาเหตุที่ซึมซับเอาเอาค่านิยมของคติพจน์นี้ หรือ เพราะแต่งงานกับนายก อ.ก.ท. ผู้มีเป้าหมายอันแรงกล้า จบออกมาเลยเลือกทางที่ ปฏิบัติจากแนวทางที่ศึกษา หาเลี้ยงชีพจากสายงานที่เรียนมา หลากหลายอาชีพ ล้มลุก คลุกคลาน จนเวลา 9 ปีเต็ม ด้วยโชคชะตาพามามากกว่า จึงย้ายถิ่นฐานมาถึง ภูเก็ต เริ่มต้นด้วย ธุรกิจ สุดหรู Bull Fighting หรือ กีฬาชนโค โชว์ นักท่องเที่ยว และแล้ว ก็จบลงที่ธุรกิจล้มเหลว พร้อม กับทุนก้อนสุดท้าย เหลือ ติดตัวแค่ รถมอร์เตอร์ไซค์ 1 คัน 3 ชีวิต พ่อ แม่ และลูกสาว วัย 7 ขวบ ย้ายโรงเรียนมาเริ่มต้น ป2 ที่นี่ โชคดีที่มี ตายายคู่หนึ่ง ให้ที่พักพิง และลูกสาว ของคูณยาย เขาทำงานโรงแรมอยู่เขาบอกว่าอยู่ ภูเก็ต ต้องทำงานโรงแรม ถึงจะอยู่ได้ เขา ทำอยู่โรงแรม ห้าดาวเก่าแก่ ที่หนึ่ง ตอนนั้นไม่มีความรุ้เลยว่างานโรงแรมหน้าตาเป็นอย่างไร  ด้วยความ มานะพยายาม ไม่อยากแบกความล้มเหลว ครั้งแล้วครั้งเล่า กลับไปหา พ่อแม่ ก็ขอพี่เขาให้พาไปสมัครงาน ด้วยความที่ไม่เคยประสาในงานโรงแรม พี่เขาบอกให้สมัคร เสิร์ฟ ด้วยความที่ไม่เจียมสังขาร ที่อายุตอนนั้นปาเข้าไป 28 แล้ว แถมไม่เจียม บอดี้ด้วย หน้าตาก็ บ้านๆ สิ้นดี ภาษายิ่งแล้วใหญ่ พอเขา ถามภาษาอังกฤษมา Yes  No ยังไม่กล้าพูดเลย น้องฝ่ายบุคคลเขาถามว่า ทำใมถึงสมัคร เสิร์ฟ เขาคงอยากถามว่า คิดได้ไงอายุปูนนี้แล้วแต่คงจะยั้งทัน และแล้วก็ แป่ว เขาไม่เรียกสัมภาษณ์ ตอนนั้น หุ้นส่วนเก่าที่ทำ โคชน ด้วยกัน เขารู้จักGM โรงแรมหนึ่ง เลยฝากให้เข้าทำตำแหน่ง Cleaner น่าน Cleaner ยุคนั้นต้องฝาก GM เชียวละ น้อย ซะเมื่อไหร่ แต่ทำ Cleaner ได้ไม่นาน ก็ค้นพบงานแบบนี้มันไม่ใช่ตัวเอง เพราะ ตัวเองเป็น คนไม่ชอบทำอะไร ที่ต้อง รอเวลา กวาด หมด ก็แล้ว ถูหมดก็แล้ว เช็ดใบไม้หมดทุกใบแล้ว เวลาเพิ่งผ่านไป 5 นาทีเอง แล้วเมื่อไหร่จะได้ กลับบ้านละเนี่ย รู้สึกวันเวลามันช่างยาวนานกว่าคนอื่น เสียจริง เลยบอกซุปเปอร์ ว่าทำไม่ได้ ผู้ช่วยแม่ ซึ่งผู้ช่วยคนนี้ ประมาณ  5 ปีให้หลัง เราก็ไปผู้ช่วยแก ตอนที่ แกเป็นแม่บ้าน แกถามว่าทำใม ทำไม่ได้ ก็อธิบายว่างาน Cleaner มันน่าเบื่อ วันๆมาทำงาน รอเวลา ออกเวรตั้งแต่ พอเริ่มเข้างาน เขาบอก ว่าขอ แม่บ้าน ฝึกเมด สิ เพราะ เมด จะเร่งรีบทำงานแข่งกับเวลา และได้ทิปดีด้วย น่าสนใจแฮะ เลยตัดสินใจเข้าหาแม่บ้าน
   คุณแม่บ้านสมัยนั้น ศักดินามากคะ เปิดประตู 2 ชั้นกว่าจะถึงออฟฟิศ คะ จากประตูด้านในเข้าไป คลานเข่านะคะ และแล้วก็เข้าถึงคุณแม่บ้านที่นั่งสง่าดุจ นาง พญา ขอท่าน ขึ้น ฝึก เมด ท่าน ถาม ทำคลีนเนอร์ นานเท่าไหร่ บอกว่า 1 เดือนคะ แม่บ้านสมัยนั้น หารู้จัก Cleaner ผู้ต้อยต่ำ เยี่ยงฉันไม่ ทำงานนานเท่าไหร่ท่านยังไม่รู้เลย ท่านว่าทำงาน 1 เดือน จะขึ้น เมด แล้ว รู้มั๊ย คนอื่นบางคนทำ Cleaner  4-5 ปียังไม่ได้ขึ้นเลย อ้าวเราผิดปกติเหรอ  แค่คิดในใจ แต่แข็งใจตอบว่าหนูแค่อยากฝึกคะ แกบอกว่าก็ได้แต่ต้องฝึกนอกเวลาทำงานนะ และอีกอย่างต้องวันที่ เจ้าของฟลอร์เขาไม่ยุ่งมาก และเขาเต็มใจฝึกให้ มีความรู้สึกว่าเมดนี่มันยิ่งใหญ่กว่า Cleaner มากนัก กว่าเราจะได้ฝึกทำใมข้อแม้มันมากมาย แต่ เช้าวันรุ่งขึ้น เข้าเวร บ่าย 3 มาทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า มาถึงแจ้งที่ออฟฟิศขอฝึกเมด เขาก็ว่าไปหา ซุปเปอร์ ฟลอร์ จำได้ไป หาพี่คนหนึ่ง ที่เป็น ซุปเปอร์ ชื่อ พี่ อุ๊ พี่อุ๊ไปฝาก กับ เมด คนแรก เขาบอกไม่เอา ไม่ เอา ช้า ไม่มีเวลาฝึก โหเราเป็น ภาระ เขาขนาดนั้นเชียว พี่อุ๊ ว่าไม่เป็นไรไปกับพี่ พอดีเขาเร่งห้องเช็คเอาท์ ในความรับผิดชอบพี่อุ๊ มา พี่อุ๊บอก เอาน้องล้างห้องน้ำห้อง เช็คเอาท์ ก่อนนะ ใช้ถังขยะล้าง เป็น Cleaner ล้างห้องน้ำเป็นนะ พี่ไปช่วยเมดคืนห้อง เคเอาท์ ให้เขาก่อน หลังพี่อุ๊ไป ก็เข้าไปล้างห้องน้ำ เอาละสิ เปิดไฟ ไม่ติด เปิด สวิทแล้วทุกตัวก็ยังไม่ติด ทำยังไงก็ล้างมันทั้งมืดๆ นั่แหละ พี่อุ๊ กลับมา ถามอ้าวน้องล้างห้องนำทำใมไม่เปิดไฟ บอกแกว่าหนูเปิดทุกดวงแล้วก็ไม่ติด แกบอกว่าติดยังไง คีแทคไม่ได้เสียบ ก็ฮาละสิ ก็หนูไม่เคยรู้นี่ว่าไฟในห้องมันใช้ คีแทคด้วย และวนนั้นก็ผ่านไป อย่างทุลักทุเล แต่มีความรู้สึกว่า เป็น เมด นี่มันสนุกดี ชักจะชอบ แล้วสิ และ วันถัดมา เป็นวันหยุด ก็ ชวน พ่อ แม่ลูกไปเล่นน้ำ ทะเล ที่หาด กะตะ เจอ โรงแรม สร้างใหม่โรงแรม หนึ่งเขียน ป้ายรับ สมัครงาน มี รูมเมดด้วย น่าสนใจ แฮะ ช่วงนั้นจำได้ ปลายเดือน กุมภาพันธ์ เป็นเหตุให้ในวันถัดมา ก็พาตัวเองถือหลักฐานมา เขียนใบสมัครที่โรงแรมนี้ เพราะตัวเองเข้าบ่าย และแล้ว ก็มาเจอ พี่พร คุณ ณัฐพร ตาดำ พี่สาวคนนี้ ที่ มีบทบาทในการ สนับสนุนในหน้าที่ การงาน ของตัวเองมาตลอด เป็นความโชคดีของตัวเอง ประจวบกับ ความใจดีและปรารถนาดีจากพี่เขา ตัวเองถึง มีโอกาสเจริญรุ่งเรืองในเส้นทางสายนี้ จวบจน ปัจจุบัน เพราะ พี่ เขาต้องการคนมาช่วยบุกเบิก เคลียร์ ตึกโรง แรมเปิดใหม่ด่วน เขารับ เลย ด้วยเงินเดือนลดลง 500 กว่าบาท ลืมบอกที่เก่า ได้ เงินเดือนตอนนั้น 4050 บาท มาที่ใหม่ ได้ 3500 บาทไม่ มายด์ เพราะได้ทำในสิ่งที่ชอบ  ดูเหมือนตัวเองจะเลือกทางที่ชอบๆ มาตลอดนะ อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชีวิตมันโซซัดโซเซ ถูลู่ถูกัง มาอย่างงี้ แต่ไม่ท้อ ลุยไปข้างหน้า

  ทีนี้แหละ ชีวิตสายแม่บ้านโรงแรมได้เริ่ม จากบัดนั้น ถึงจวบจนปัจุบัน